พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019-20 จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตำแหน่งแชมป์, พื้นที่ท็อปโฟร์, พื้นที่ไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า ยูโรป้าลีก และทีมที่ตกชั้น ทุกตำแหน่งรู้ผลไปแล้วทั้งสิ้น โดยเหลือเพียงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ โดยบทความนี้มาจากเว็บไซต์ฟุตบอลสามหกห้าดอทคอม
- บรูโน่ แฟร์นานเดส (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
กับผลงานที่โดดเด่น และยกระดับการเล่นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดขึ้นมาได้อย่างชัดเจน สำหรับการย้ายมาร่วมทีมของแฟร์นานเดส ในเดือนมกราคม เมื่อสุดท้ายช่วยให้ทีมขึ้นมาจบในอันดับที่ 3 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกได้หน้าตาเฉย ทั้งที่ครึ่งฤดูกาลแรก ทีมต้องหลุดวงโคจรลุ้นไปเล่นฟุตบอลยุโรป และแน่นอนว่า มันต้องให้เครดิตกับแฟร์นานเดส ที่ย้ายมาร่วมทีม และสร้างผลงานได้ขนาดนี้
- แดนนี่ อิงส์ (เซาแธมป์ตัน)
เหมือนเป็นการกลับมาแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวสำหรับอิงส์ เมื่อไม่ได้มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน และสามารถลงสนามให้กับทีมได้อย่างสม่ำเสมอ โดยอิงส์ ทำไปได้ถึง 22 ประตู เป็นรองดาวซัลโวอย่าง เจมี่ วาร์ดี้ ของเลสเตอร์ ซิตี้ เพียงประตูเดียวเท่านั้น แม้จะอยู่กับทีมอย่างเซาธ์แฮมป์ตัน ที่ต้องลุ้นหนีตกชั้นมาแทบตลอดทั้งฤดูกาล
- เวอร์จิล ฟาน ไดค์ (ลิเวอร์พูล)
การลงสนามเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกให้กับลิเวอร์พูลถึง 89 เกม โดยเก็บคลีนชีตได้ 42 เกม โดยปราการหลังชาวดัตช์โดนใบเหลืองไปเพียง 3 ใบ ในขณะที่ตัวนักเตะได้รับการยกย่องอย่างมากมาย เมื่อเข้ามาปฏิวัติเกมรับของทีมได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน แม้ทีมจะต้องตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมากมาย และสุดท้ายก็มทีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปได้สำเร็จ
- เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล)
ตลอด 2 ฤดูกาลครึ่งที่อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ลงเล่นให้กับลิเวอร์พูล ในทีมชุดใหญ่ กับการเป็นกำลังสำคัญหลักของทีมมาตลอด และยังทำสถิติเป็นนักเตะคนแรกที่อายุน้อยกว่า 20 ปี ที่ลงเล่นนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 ปีติดต่อกัน โดยแบ็คชาวอังกฤษมีสถิติแอสซิสต์ที่ยอดเยี่ยม แม้จะลงเล่นในตำแหน่งแบ็คขวา โดยฤดูกาลนี้ยังเพิ่มความคมในการทำประตูจากฟรีคิกได้ด้วย
- เควิน เดอ บรอยน์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
จำนวน 20 แอสซิสต์ ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019-20 เดอ บรอยน์ เป็นตัวที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดี โดยยังทำได้อีก 2 ประตู ในเกมสุดท้ายของฤดูกาล สำหรับการเปิดบ้านถล่มนอริช ซิตี้ ไป 5-0 เบ็ดเสร็จทำให้ดาวเตะชาวเบลเยี่ยมมีส่วนร่วมกับการทำประตูถึง 33 ประตู นับเป็นการทำประตู หรือแอสซิสต์ ทุกๆ 84 นาที แน่นอนว่า ทั้งการขึ้นเกมรุก, การเล่นเร็ว, การผ่านบอลทีเด็ดทีขาด และจังหวะเปลี่ยนเกมต่างๆ เดอ บรอยน์ เป็นหนึ่งในนักเตะที่ทำผลงานออกมาได้อย่างโดดเด่นมากๆ